ประวัติ อาร์ม ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง พ่อมดฟุตซอลไทย
ประวัติ อาร์ม ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง เป็นอีกหนึ่งคนของ นักฟุตซอลทีมชาติไทย ที่โด่งดังไปทั่วโลกและทั่วเอเชียได้รับยกย่องว่าเขาคือ พ่อมดฟุตซอล อีกหนึ่งคนผ่านการค้าแข้งในต่างแดนมามากมีแต่ทีมชั้นนำของเอเชียที่เขาได้ไปร่วมทัพ และยังสามารถผงาดคว้าแชมป์กับทีม ฟุตซอล ในญี่ปุ่นได้อีกด้วยเป็นอีกหนึ่งคนของวงการฟุตซอลไทยที่น่าติดตามเป็นอย่างมาก วันนี้ทางทีมงาน เว็บข่าวฟุตซอลออนไลน์ จึงได้นำข้อมูลเกี่ยวกับ อาร์ม ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง มานำเสนอให้ทุกท่านได้รู้จักกันมากยิ่งขึ้น
ประวัติ อาร์ม ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง
![พ่อมดฟุตซอลไทย](https://futsalstory.com/wp-content/uploads/2023/08/0.jpg)
ข้อมูลส่วนตัว
ชื่อเต็ม : ร้อยตำรวจเอกศุภวุฒิ เถื่อนกลาง (อาร์ม)
วันเกิด : เกิดวันที่ 14 กรกฎาคม พ.ศ. 2532 (32 ปี)
สถานณ์ที่ : จังหวัดราชบุรี ประเทศไทย
ส่วนสูง : 1.79 เมตร (5 ฟุต 10 นิ้ว)
สโมสรปัจจุบัน : ชลบุรี บลูเวฟ
ตำแหน่งที่เล่น : หน้าเป้า
สวมเสื้อเบอร์ : 9
ลงเล่น : 2550–ปัจจุบัน
เส้นทางการเล่นฟุตซอลก่อนเข้าสู่สโมสรฟุตซอลอาชีพ
![ประวัติ อาร์ม ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง พ่อมดฟุตซอลไทย](https://futsalstory.com/wp-content/uploads/2023/08/2.jpg)
ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง มีถิ่นกำเนิดมาจากอำเภอโพธารามจังหวัดราชบุรี เป็นบุคคลที่ชอบในเรื่องของฟุตบอลมาตั้งแต่เด็ก แต่โรงเรียนที่เขาเรียนในตอนนั้นไม่โดดเด่นในเรื่องของฟุตบอล จึงได้หันมาเล่นฟุตซอลแทนในช่วงประมาณมัธยมตอนต้นและได้ฝึกซ้อมมาเรื่อยๆ โดยมี อนุชา มั่นเจริญ นักฟุตซอลทีมชาติไทยตอนนั้น เป็นแรงบันดาลใจในตอนนั้นจนเป็นกำลังหลักของ โรงเรียนโพธารามวัฒนาเสนี ในช่วงมัธยมปลายและกวาดแชมป์มาครองได้สำเร็จ หลังจากนั้นศุภวุฒิในวัย 18 ปีก็ได้ก้าวขึ้นสู่เยาวชนของสโมสร ชลบุรี บลูเวฟ และ เยาวชนทีมชาติไทย และทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมจนมาในปี 2550 เจ้าตัวได้ขึ้นเล่น สโมสรฟุตซอล อาชีพกับชลบุรีบลูเวฟอย่างเป็นทางการ
ก้าวสู่สโมสรฟุตซอลอาชีพ
![ประวัติ อาร์ม ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง พ่อมดฟุตซอลไทย](https://futsalstory.com/wp-content/uploads/2023/08/3.jpg)
สโมสรฟุตซอล ชลบุรี บลูเวฟ ได้เซ็นสัญญากับ ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง ตั้งแต่ปี 2550 จนถึงปัจจุบันนี้ แต่เจ้าตัวก็ถูกยืมไปต่างสโมสรอย่างมากมาย ผลงานของศุภวุฒิในช่วงแรกที่อยู่กับชลบุรี 2550-2559 เขาก็ทำผลงานกับชลบุรีได้อย่างยอดเยี่ยมด้วยการคว้าแชมป์ ฟุตซอลไทยลีก ไปถึง 7 สมัยและ ฟุตซอลไทยเอฟเอคัพ อีก 4 สมัย
การค้าแข้งต่างแดน
จนทำให้ในปี 2560 สโมสร เมส ซุนกุน ทีมแก่งจาก อิหร่านฟุตซอลซูเปอร์ลีก ดึงตัวไปร่วมทัพด้วยสัญญายืมตัว ได้รับโอกาสลงสนามไปทั้งหมด 6 ทำไปได้ 3 ประตู และฤดูการต่อมา 2561 ต้องย้ายสโมสรอีกและเป็นสัญญายืมตัวจากชลบุรีเหมือนเดิม โดยเจ้าตัวย้ายไปเล่นให้กับ แบล็คสตีล มาโนกวารี ทีมจาก อินโดนีเซีย และเจ้าตัวก็พาสโมสรดังกล่าวเข้าสู่รอบเพลย์ออฟตัดสินแชมป์ แต่สุดท้ายต้องกลับไทยก่อนเพราะต้องกลับมาอยู่กับสโมสรก่อนที่ตลาดซื้อขายนักเตะจะปิดลง
![ประวัติ อาร์ม ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง พ่อมดฟุตซอลไทย](https://futsalstory.com/wp-content/uploads/2023/08/4.jpg)
ต่อมาในปี 2563-2565 สโมสร นาโงยะ โอเชียนส์ ทีมจาก ฟุตซอลลีกญี่ปุ่น ได้ติดต่อยืมตัวศุภวุฒิไปร่วมทัพ 2 ฤดูกาลและเจ้าตัวก็ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมกับสโมสรดังกล่าวลงสนามไป 7 นัดทำได้ 11 ประตูและยังเป็นส่วนสำคัญที่พาทีม นาโงยะ โอเชียนส์ คว้าแชมป์ ฟุตซอลลีก ไปครองได้สอสมัยติดต่อกัน และเขาคือคนไทยคนแรกที่สามารถคว้าแชมป์ในลีกของประเทศญี่ปุ่นได้ จนถูกยกย่องให้เป็น พ่อมดแห่งวงการฟุตซอลแนวหน้าของโลก
กลับสู่สโมสรฟุตซอลไทยอีกครั้ง
![พ่อมดฟุตซอลไทย](https://futsalstory.com/wp-content/uploads/2023/08/5.jpg)
ในปี 2566 ได้กลับประเทศไทยเพื่อที่จะมารักษาตัวเพราะเจ้าตัวมีอาการบาดเจ็บหัวเข่าต้องทำการผ่าตัดและใช้เวลาพักฟื้นอยู่สักพักหนึ่งก่อนที่จะคัมแบ็กกลับมาเล่น ฟุตซอลไทยลีก ให้กับต้นสังกัด ชลบุรี บลูเวฟ และปัจจุบันนี้ยังคงเป็นกำลังหลักสำคัญของสโมสรพร้อมกับถูกแต่งตั้งให้เป็นกัปตันทีมคนใหม่ หลังจากที่ กัปตันช้าง กฤษดา วงษ์แก้ว ถูกยืมตัวไปเล่นฟุตบอล และเขาก็ยังยิงประตูได้อย่างต่อเนื่องจบเลกแรกในฤดูกาล 2566 พาชลบุรีบลูเวฟอยู่อันดับที่ 3 ของตารางฟุตซอลไทยลีก และยังคงมีลุ้นที่จะคว้าแชมป์ในฤดูกาลนี้ และยังเป็นกัปตันทีมขวัญใจ แฟนฟุตซอล ของชลบุรีอีกด้วย
ศุภวุฒิกับทีมชาติไทย
![พ่อมดฟุตซอลไทย](https://futsalstory.com/wp-content/uploads/2023/08/6.jpg)
ศุภวุฒิ เถื่อนกลาง สามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชาติไทยได้ตั้งแต่รุ่นเยาวชน 18 ปี พาทีมชาติไทยประสบความสำเร็จมามากมาย ตั้งแต่รุ่นเยาวชนถึงปัจจุบัน ในปี 2553 อาร์มยังได้รับเลือกเป็น นักเตะเยาวชนดาวรุ่ง ไปฝึกที่ประเทศสเปนในตำแหน่งหน้าเบ้า และยังพา โต๊ะเล็กทีมชาติไทย สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการผ่านเข้าสู่รอบ 16 ทีมสุดท้ายใน ฟุตซอลชิงแชมป์โลก ถึง 3 ครั้งติดต่อกัน และยังสามารถกดแฮตทริกในฟุตซอลชิงแชมป์โลกได้อีกด้วย พร้อมกับการคว้ารางวัลดาวซัลโว ฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย 2559 มาครองอีก 1 สมัย เป็นตำนาน ฟุตซอลทีมชาติไทย หมายเลข 9 ที่สร้างชื่อเสียงให้กับวงการ ฟุตซอลไทย อย่างมาก
เกียรติประวัติ
![พ่อมดฟุตซอลไทย](https://futsalstory.com/wp-content/uploads/2023/08/7.jpg)
สโมสร
ชลบุรี บลูเวฟ
- แชมป์ ฟุตซอลไทยแลนด์ลีก : 2009, 2010, 2011–2012, 2012–2013, 2014, 2015, 2016
- แชมป์ ฟุตซอลเอฟเอคัพ : 2010, 2011–2012, 2014, 2015
- แชมป์ เอเอฟซีฟุตซอลคลับแชมเปียนชิพ : 2013, 2017
นาโงยะ โอเชียนส์
- แชมป์ ฟุตซอล เอฟลีก : 2020-2021, 2021-2022
รางวัลส่วนตัว
- พ.ศ. 2556 : รางวัลนักเตะทรงคุณค่าของรายการฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย
- พ.ศ. 2556 : รางวัลนักฟุตซอลแห่งปีของทวีปเอเชีย
- พ.ศ. 2557 : รางวัลนักฟุตซอลยอดเยี่ยม งานฟุตบอลสยามโกลเด้นบอล ครั้งที่ 4
- พ.ศ. 2559 : รางวัลดาวซัลโวของรายการฟุตซอลชิงแชมป์เอเชีย
ติดตามข่าวสารฟุตซอลเพิ่มเติม :: หน้าแรก